วันพฤหัสบดีที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ขาย เฉาก๊วย อาชีพ

        อาการร้อน ๆ แบบนี้ถ้าได้ถ้าได้ของหวานสักหน่อยน่าจะทำให้ดีขึ้น “เฉาก๊วย” แก้ร้อนในกระหายน้ำ จึงเป็นของหวาน หรือเครื่องดื่ม ที่ีคนส่วนใหญ่เรียกหากัน

        วันนี้เราเอาเคล็ดลับการทำเฉาก๊วยมาบอกต่อเพื่อให้นำไปทำกินกันในช่วงอากาศร้อน ๆ แบบนี้ หรือใครจะนำไปทำเป็นอาชีพเสริมหรืออาชีพประจำก็ได้ แล้วแต่ความพอใจของท่าน

วัตถุดิบ

ส่วนผสม เฉาก๊วย
        1. หญ้าแห้งเฉาก๊วย                                     6 ½          กิโลกรัม
        2. น้ำสะอาด                                                   20         ลิตร
        3. แป้งมันสำปะหลัง และแป้งท้าวยายม่อม
        หรือแป้งข้าวโพด ประมาณ                            3-4         ช้อนโต๊ะ

ส่วนผสม น้ำเชื่อม
        1. น้ำตาลทรายแดง                                     24         กิโลกรัม
        2. น้ำตาลโอทึ้ง                                           ½          กิโลกรัม
        3. ใบเตย                                                    ½          กิโลกรัม
        4. น้ำสะอาด
        5. น้ำผึ่งรวง

ขั้นตอนในการทำ เฉาก๊วย
        1. นำหญ้าเฉาก๊วยแห้ง มาล้าง ใส่ในหม้อ เติมน้ำให้เต็ม
        2. นำไปต้ม พอเดือด เบาไฟลง คนไปเรื่อย ๆ ใช้เวลา 4-5 ชั่วโมง จะได้น้ำเฉาก๊วยที่มีสีดำ
        3. นำลงจากเตา รอให้เย็น
        4. ใช้ผ้าขาวบางกรองเอาเศษใบหญ้าออก โดยวางผ้าทับกัน 2-3 ชั้นบนปากภาชนะ เทน้ำเฉาก๊วยผ่านผ้าลงไป 3 ครั้ง
        5. พยายามคั้นให้น้ำออกมามากที่สุด
        6. เติมแป้งมันสำปะหลัง หรือแป้งข้าวโพด เพื่อให้จับกันเป็นก้อน
        7. ทิ้งไว้ให้เย็นจะมีลักษณะเป็นวุ้น

ขั้นตอนการทำ น้ำเชื่อม
        1.นำน้ำและน้ำตาลโอทิ้งใส่ลงในภาชนะ
        2.ต้มด้วยไฟปานกลาง ค้นให้น้ำตาลโอทึ้งละลาย
        3.พอเดือดใส่น้ำตางทรายแดง คนให้ละลาย
        4.ใส่ใบเตยที่หันไว้ ต้มจนเดือดและมีกลิ่นหอม
        5.ยกลงแล้วใส่น้ำผึ้งรวงลงไป
        6.พักน้ำเชื่อมไว้ให้เย็น กรองด้วยผ้าขาวบางก่อนนำไปใส่โหลแก้ว

        เงินลงทุนเฉพาะค่าเฉาก๊วยประมาณ 500 บาทไม่นับรวมค่าอุปกรณ์การขายอื่น ๆ รายได้ประมาณ 50% ของยอดขาย

        เฉาก๊วย มีรสชาติอร่อยสดชื่น แก้อ่อนเพลีย ลดความดันในร่างกาย แก้ร้อนใน กระหายน้ำ สามารถทำให้น่ากินมากขึ้น ด้วยการเพิ่มเครื่องประกอบ เช่น พุทราเชื่อม ถั่วแดง ลูกชิด

        ใครก็ตามที่สนใจทำเป็นอาชีพเสริม เพราะสามารถจำหน่ายได้ในแหล่งชุมชน ตามตลาดนัดและงานตามที่จัดขึ้นสถานที่ต่าง ๆ 

วันอังคารที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

รายได้เสริม "วุ้นมะพร้าว"

        ในภาวะเศรษฐกิจแบบปัจจุบัน การทำอาชีพเสริมเป็นทางออกที่ดี กว่าการว่างงานอยู่เฉย ๆ แต่ภาวะวิกฤติแบบนี้จะลงทุนทำอะไรก็ต้องระมัดระวังทั้งนั้น ทำแล้วกลัวไม่ถูกใจคนซื้อ กลัวว่าจะขาดทุน  

        ด้วยสาเหตุดังกล่าว วันนี้เราเลย มีอาชีพทำอาหารที่ใช้ต้นทุนต่ำ และทำไม่ยาก รสชาติถูกปากทุกคน นั้นคือการทำ “วุ้นมะพร้าว” ขายนั้นเอง

วัตถุดิบ
        1. มะพร้าวอ่อน
        2. ผงวุ้น
        3. น้ำตาล
        4. เกลือ
        5. มะพร้าวแก่
ขั้นตอนการทำ
        1. เลือกมะพร้าว ใช้มะพร้าวอ่อนที่มีขนาดกำลังพอดี ไม่แก่และไม่อ่อนจนเกินไป
        2. ใช้ช้อนขูดเนื้อมะพร้าวออกมา
        3. นำมาพร้าวแก่มาคั้น แยกเป็นหัวกะทิ และหางกะทิ
        4. นำผงวุ้น น้ำตาล เกลือเล็กน้อย ผสมลงไปกับหางกะทิ นำไปเคี่ยวจนเดือด
        5. ใส่เนื้อมะพร้าวอ่อนลงไป คนให้เป็นเนื้อเดียวกัน
        6. เทหัวกะทิลงไป เคี่ยวให้เดือดอีกครั้ง
        7. ยกลง แช่น้ำเย็น
        8. ตักใส่บรรจุภัณฑ์แล้วทิ้งไว้ให้เย็น เนื้อวุ้นจะแข็ง

        การทำวุ้นมะพร้าวขายใช้เงินลงทุน ประมาณ 3,500 บาท ซื้อเตาแก๊สพร้อมถัง 2,500 บาท หม้อขนาดใหญ่ 700 บาท วัตถุดิบ 300 บาท กำไรอยู่ที่ประมาณ 40% ของยอดขายทั้งหมด

        ใครที่มีบ้านอยู่ใกล้สวนมะพร้าว เหมาะกับทำอาชีพนี้มาก เพราะนอกจากจะสามารถซื้อวัตถุดิบได้ในราคาถูก ชื่อเสียงของชุมชนเรายังสามารถนำไปใช้เป็นจุดขายได้อีกด้วย

วันพุธที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ความพยายามอยู่ที่ไหน ความ....อยู่ที่นั้น

        วันสงกรานต์ปี 2557 ที่ผ่านมา พี่ชายของผมได้โทรมาหา บอกว่าเขากำลังดูที่ดินอยู่ที่สุพรรณบุรี และชวนผมให้เข้าไปดูที่ดิน โดยพี่ชายผมเล่าโครงการของเค้าว่า เค้าจะปลูกกล้วยหอมทองและปลูกมะละกอและอื่น ๆ อีกมากมาย

        ผมถามกลับไปว่า จะทำไหวหรือ เพราะสำหรับคนที่เกิดและโตในต่างจังหวัดการบริหารจัดการที่ดิน 4 ไร่มันธรรมดามาก แต่ ถ้าคนที่เกิดในกรุงเทพ ฯ เห็นที่ดิน 4 ไร่ก็จะรู้สึกว่ามันใหญ่มาก

        พี่ชายผมบอกว่า ใช่มันใหญ่มาก และการจะพัฒนาจากที่นาให้เป็นระบบที่เค้าคิดอาจจะต้องมีการจัดการอีกเยอะ โครงการใช้ประโยชน์จากที่ดินของพี่ชายช่างมากมายยิ่งนัก และตบท้ายด้วยการถามผมว่าผมจะปลูกอะไร

        ผมไม่ได้เข้าไปดูที่ดินของเรานานมาก เนื่องด้วยพวกเราอยู่ที่กรุงเทพฯและมีงานประจำทำที่กรุงเทพฯ แม้จะแวะไปที่บ้านญาติที่สุพรรณบุรีบ่อยครั้ง แต่พวกเราที่ไม่เคยคิดที่จะทำเกษตรจึงไม่ได้แวะเข้าไปดูที่ดินแม้สักครั้งในรอบหลายปีที่ผ่านมา

        ผมไม่ได้คิดเอาไว้ว่าจะปลูกอะไร เพราะช่วงที่ผ่านมาไม่นานเพิ่งจะไปล้มเหลวกับการปลูกพริกขี้หนูมา เงินที่ได้ลงทุนน่าจะใช้ซื้อพริกกินได้ประมาณ 5-6 ปีมั้ง และนี้ไม่ใช้ครั้งแรกที่ผมล้มเหลว

        แต่การล้มเหลวแต่ละครั้งมันมีบทเรียนสอนเราเสมอ ทำให้เราระแวดระวังและพยายามแก้ไขจุดบกพร่อง สาเหตุที่เราทำไม่สำเร็จ

        แล้วประโยคจากหนังเรื่องที่ผมเคยดูก็ผุดขึ้นมาในความคิดของผม “เราไม่จำเป็นต้องชนะ แต่เราต้องสู้”  (เป็นคำกล่าวของอาจารย์เจไดนามว่า เมซ วินดู  ในมหากาพย์ภาพยนต์เรื่อง สตาร์ วอร์)   จะลองอีกสักครั้งน่าจะไม่เสียหายอะไร  คราวนี้ผไม่ได้คิดว่ามันจะต้องได้ผลเหมือนกับที่วาดฝันไว้ แต่ก็เป็นการสมควรที่จะเริ่มทำใหม่อีกครั้งหนึ่ง

        ใช้แล้วผมจะต้องลองทำอีกครั้งหนึ่ง ครั้งนี้จะวางวางแผนให้รัดกุมขึ้น และจะทำเรื่อย ๆ ให้เหมือนกับเราอยู่ใช้ชีวิตนี้เพื่อการเรียนรู้และให้ความรู้เติบโตขึ้นตามเวลาที่ได้ทำ

แล้วผลสรุปมันจะเป็นเช่นไร จะได้ถือว่าสิ่งเหล่านั้นคือ “กำไร” ทั้งหมด

วันจันทร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

"ก้อยกุ้ง"

ส่วนผสม

        กุ้งตัวใหญ่                                 300         กรัม
        หนังหมู                                     200         กรัม
        มันหมู                                       100         กรัม
        เกลือป่น                                        1         ช้อนชา
        น้ำมะนาว                                       2         ช้อนโต๊ะ
        ไข่เป็ด                                           1         ฟอง
        ใบมะกรูดหั่นฝอย                           1         ช้อนโต๊ะ
        ผักชีเด็ดเป็นใบ                              1         ช้อนโต๊ะ
        น้ำมัน                                            2         ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
        1. หักหัวกุ้งแยกมันออก ปอกเปลือก ผ่าหลังชักเส้นดำออก ล้างให้สะอาด
        2. ผึ่งพอหมาด แล้วทุบพอเนื้อแตก
        3. ใส่เกลือ ½ ช้อนชา น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ คลุกจนกุ้งสุก
        4. นำกุ้งใส่ผ้ากรองคั้นจนกุ้งแห้ง ฉีกเนื้อกุ้งเป็นฝอย
        5. ต้มหนังหมูอย่าให้เปื่อยนัก หั่นเป็นฝอย
        6. ใส่เกลือ 1 ช้อนชา น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ ขยำจนอ่อนนุ่ม แล้วลวกน้ำร้อนอีกที
        7. ต้มมันหมูแล้วหั่นเป็นฝอย ลวกน้ำร้อนจัด ผึ่งให้สะเด็ดน้ำ
        8. ต่อยไข่ คนให้ไข่แดงผสมไข่ขาว แล้วทอดบาง ๆ ในกระทะ
        9. ตักขึ้นแล้วหั่นฝอย ไว้ใช้โรยหน้า
        10 คลุกเนื้อกุ้ง หนังหมู มันหมู ใบมะกรูด ให้เข้ากัน โรยหน้าด้วยไข่ฝอย ผักชี

"น้ำพริกกระเทียมสุก"

เครื่องปรุง

         กระเทียมนึ่งสุก                              15          กลีบ
         พริกแห้ง                                          5          เม็ด
         เกลือป่น                                          1          ช้อนชา
         น้ำมะขามเปียก                                1          ช้อนชา
         น้ำตาลทราย                                    1          ช้อนชา
         น้ำมะนาว                                         2          ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
         1. พริกแห้งแกะเมล็ดออกล้างน้ำ โขลกกับเกลือให้ละเอียด
         2. ใส่กระเทียม โขลกให้เข้ากัน
         3. ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำตาล น้ำมะนาว ชิมรสเปรี้ยวเค็มหวานตามชอบ

"น้ำพริกกลางดง"

ส่วนผสม

        กุ้งแห้ง                                             100         กรัม
        พริกชี้ฟ้าแห้ง                                      10         เม็ด
        หอมแดงซอยเจียว                             1/2         ถ้วย
        กระเทียมซอยเจียว                            1/4         ถ้วย
        น้ำมะขามเปียก                                  2-3         ช้อนโต๊ะ
        น้ำปลา                                                 2         ช้อนโต๊ะ
        เกลือป่น                                            1/2         ช้อนชา
        น้ำตาลทราย                                   1/2-1         ช้อนชา
        น้ำมัน                                                1-2         ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
        1. พริกแห้ง แกะเมล็ดออกแช่น้ำ
        2. หั่นพริกแห้งตามขวางบางๆ พักไว้
        3. ทอดกุ้งแห้งให้เหลืองกรอบ ทอดพริกแห้งระวังอย่าให้ไหม้จะขม
        4. ใส่น้ำมันลงในกระทะ ใส่เครื่องน้ำพริกซึ่งมีกุ้งแห้ง พริกทอด หอมเจียว กระเทียมเจียว ผัดรวมกัน
        5. ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำตาล น้ำปลา เกลือ ผัดไปเรื่อย ๆ จนน้ำพริกแห้ง

"น้ำพริกก้อย"

ส่วนผสม

        กุ้งนาง                                    1         ตัว
        น้ำพริกเผา                              1         ช้อนโต๊ะ
        ถั่วเขียว                               1/2         ถ้วย
        มะพร้าวขูด                          300         กรัม
        น้ำตาลทราย                           2         ช้อนชา
        น้ำมะนาว                                2         ช้อนโต๊ะ
        น้ำปลา                                3-4         ช้อนโต๊ะ
        น้ำมะขามเปียก                       2         ช้อนโต๊ะ
        น้ำสะเออะและมันกุ้งที่เก็บไว้จากก้อยกุ้ง

วิธีทำ
        1. ล้างกุ้ง ปอกเปลือก ผ่าหลังชักเส้นดำออก นึงมันกุ้งให้สุก
        2. คั่วถั่วให้หอม แล้วต้มจนเปี่อย
        3. คั้นมะพร้าว ให้ได้หัวกะทิ 2/3ถ้วย
        4. โขลกกุ้ง มันกุ้ง ถั่ว น้ำพริกเผา ให้ละเอียดเข้ากัน
        5. เอาหัวกะทิใส่กระทะ ตั้งไฟพอแตกมัน ใส่เครื่องที่โขลกลงไปละลาย
        6. ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล น้ำมะนาว น้ำมะขามเปียก
        7. เอาน้ำสะเออะตั้งไฟให้เดือด แล้วผสมลงในกระทะ คนให้เข้ากันชิมรสตามชอบ

"น้ำพริกกะปิ"

่ส่วนผสม

        กะปิเผาไฟพอหอม                                    2         ช้อนโต๊ะ
        กระเทียมซอยหยาบ                                  1         ช้อนโต๊ะ
        กุ้งแห้งป่น                                                 1         ช้อนโต๊ะ
        พริกขี้หนู                                                  1         ช้อนชา
        มะอึกสุกหั่นฝอย                                       1         ช้อนโต๊ะ
        มะเขือพวง หรือมะเขือเปราะซอย               1         ช้อนโต๊ะ
        น้ำมะนาว                                                  3         ช้อนโต๊ะ
        น้ำปลา                                                     3         ช้อนโต๊ะ
        น้ำตาลปีบ                                             2-3          ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
        1. โขลกกะปิ กระเทียม ให้ละเอียด
        2. ใส่กุ้งแห้ง โขลกรวมกัน ใส่พริกขี้หนู มะอึก ระกำ มะเขือพวง
        3. ปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำปลา น้ำมะนาว ชิมรสตามชอบ

"น้ำพริกกากหมู"

ส่วนผสม

        กากหมู                                           1         ถ้วย
        หมูหยอง                                      1/2         ถ้วย
        พริกชี้ฟ้าเขียว แดง เหลือง            6-8         เม็ด
        หอมแดง                                         6         หัว
        กระเทียม                                        2         หัว
        มะอึกหั่นฝอย                                  1         ช้อนโต๊ะ
        ระกำ                                              2         ลูก
        น้ำมะนาว                                     1-2         ช้อนโต๊ะ
        น้ำปลา                                        3-4         ช้อนโตีะ
        น้ำตาลทราย                                   1         ช้อนชา

วิธีทำ
        1. พริกเผา หอม กระเทียม โขลกให้ละเอียด
        2. ใส่กากหมูลงไป โขลกแล้วใส่หมูหยอง โขลกทุกอย่างให้เข้ากัน
        3. ฝานระกำใส่ ใส่มะอึก ใส่มะนาว น้ำปลา น้ำตาล
        4. ปรุงรสเพิ่มตามความชอบ เคล้าให้เข้ากัน

"น้ำพริกกุ้งจ่อม"

ส่วนผสม

        กุ้งจ่อมอย่างดี                             1         ถ้วย
        พริกขี้หนูสดหั่น                           1         ช้อนโต๊ะ
        หอมแดงหั่น                                2         ช้อนโต๊ะ
        ขิงอ่อนซอย                                2         ช้อนโต๊ะ
        มะเขือเหลืองหั่นเป็นแว่น             2         ช้อนโต๊ะ
        ตะไคร้หั่นฝอย                      1/2-1         ช้อนโต๊ะ
        ใบมะกรูดหั่นฝอย                  1/2-1         ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
        1. เทกุ้งจ่อมใส่หม้อ ตั้งไฟอ่อน จนกระทั่งเดือดเบา ๆ แล้วปิดไฟ
        2. เทเครื่องปรุงส่วนที่เหลือ คนให้เข้ากัน ชิมรส

"น้ำพริกป่นพริกขี้หนู่"

ส่วนผสม

        กุ้งแห้งอย่างดี                                    2         ถ้วย
        พริกขี้หนูแห้ง                              15-20         เม็ด
        เกลือป่น                                      1/2-1         ช้อนชา

วิธีทำ
        1. อบกุ้งให้สุก แล้วโขลกให้ละเอียด ตักขึ้นพักไว้
        2. อบพริกขี้หนูพอสุกอย่าให้ดำ โขลกให้ละเอียด
        3. ใส่กุ้งแห้งเกลือ เคล้าให้เข้ากัน

"น้ำพริกกุ้งสด"

ส่วนผสม

        เนื้อกุ้งนาง                           1/2         ถ้วย
        กะปิ                                    1-2         ช้อนโต๊ะ
        กระเทียม                            6-8         กลีบ
        พริกขี้หนู                           8-10         เม็ด
        มะเขือพวง                             2         ช้อนโต๊ะ
        มะอึกซอย                             1         ช้อนโต๊ะ
        น้ำมะนาว                               2         ช้อนโต๊ะ
        น้ำตาลปีบ                              1         ช้อนชา
        น้ำปลา                               1-2         ช้อนชา

วิธีทำ
        1. เนื้อกุ้งนางสับกึ่งหยาบกึ่งละเอียด
        2. กะปิห่อเผาไฟให้หอม
        3. โขลกพริกขี้หนู กระเทียม ให้พอแหลก
        4. ใส่มะเขือพวง บุบพอแตก ใส่กะปิ เนื้อกุ้งนาง เคล้าให้เข้ากัน ใส่มะอึก
        5. ปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำปลา น้ำมะนาว ชิมรสตามชอบ

"น้ำพริกไก่นึ่ง"

ส่วนผสม

        เนื้ออกไก่                                    1/2         ถ้วย
        มะเขือยาวลูกเล็ก                            1         ลูก
        พริกชี้ฟ้า เขียว แดง เหลือง          6-8         เม็ด
        หอมแดง                                        6         หัว
        กระเทียม                                       2         หัว
        น้ำปลา                                       3-4         ช้อนโต๊ะ
        งาคั่ว                                             1         ช้อนชา
        น้ำมะนาว                                    2-3         ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
        1. นึ่งเนื้ออกไก่ให้สุก หั่นเป็นชิ้น ๆ โขลก
        2. เผาพริก หอม กระเทียม มะเขือยาว ปอกเปลือกแล้วนำไปโขลก
        3. ใส่เนื้อไก่ โขลกให้เข้ากัน
        4. ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว ไม่ต้องใช้น้ำตาล เพราะมะเขือยาวจะมีรสหวานอยู่แล้ว