6 วิธีทดสอบ เค้าคนนี้ เป็น เพื่อนแท้ แน่หรือ

“เพื่อน” คำสั้น ๆ ที่ให้ความหมายได้อย่างหลากหลาย แต่จะรู้ได้ยังไงว่าคนไหนสมควรเรียกว่าเพื่อน วันนี้ WIT ได้เอาวิธีทดสอบเพื่อนแท้หกข้อเพื่อใช้ดูว่าเขาคนนั้นเป็นเพื่อนที่สามารถไว้ใจได้จริงรึเปล่า มาฝาก

ความสนใจ

หลักเกณฑ์สำคัญข้อหนึ่งที่บ่งบอกถึงความเป็นเพื่อนคือ เขาสนใจในเรื่องที่เกิดขึ้นกับชีวิตของคุณมากน้อยเพียงใด จงเล่าให้เขาฟังถึงเรื่องอะไรก็ได้ที่กำลังเกิดขึ้นซึ่งมีความสำคัญกับตัวคุณ แล้วดูว่าเขาจะโทรกลับมาเพื่อติดตามผลว่าเรื่องราวเป็นอย่างไรต่อไปหรือเปล่า ถ้าเขาไม่โทรกลับมา ให้คุณลองโทรกลับไปหาเขา และดูว่าเขาจะพูดถึงเรื่องนี้ไหม ถ้าในที่สุดเขายังไม่พูดถึงเรื่องนี้ ก็ให้พูดเป็นนัย ๆ เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว แล้วดูว่าเขายังจำเรื่องที่เคยคุยกันก่อนหน้านี้ได้อยู่รึเปล่า

ความจงรักภักดี

เล่าเรื่องลับ ๆ ของเพื่อนสนิทคนหนึ่งในกลุ่มให้คนที่คุณอยากทดสอบฟัง และดูว่าเรื่องนั้นจะไปถึงหูเขาหรือไม่ เพื่อนแท้ย่อมรู้ถึงคุณค่าของความไว้วางใจซึ่งกันและกัน แต่คุณต้องขออนุญาตเพื่อนของคุณก่อนว่าคุณจะเอาความลับของเขาไปเล่าให้เพื่อนอีกคนหนึ่งฟัง

ความภาคภูมิใจ

ใคร ๆ ก็สามารถพูดให้กำลังใจคุณได้ เพราะว่ามันทำให้พวกเขารู้สึกดี แต่ลองดูสิว่ามีใครบ้างที่มาตบหลังชมเชยผลงานของคุณบ้าง จะมีแต่คนที่ไม่รู้สึกอิจฉาริษยาคุณเท่านั้นแหละที่จะทำอย่างนั้น เพื่อนแท้จะรู้สึกภาคภูมิใจในความสำเร็จของคุณ เขาจะไม่มีความรู้สึกอิจฉาเลย สังเกตดูว่าเพื่อนคนนี้จะมาหาคุณตอนที่มีข่าวดีบ้างไหม ไม่เพียงแต่เฉพาะตอนที่คุณได้รับข่าวร้าย มีคนจำนวนมากที่ชอบจะ “ให้กำลังใจ” เมื่อทุกอย่างไม่เป็นไปด้วยดี แต่การจะหาใครสักคนที่พร้อมแสดงความยินดีกับเราเมื่อทุกอย่างดำเนินไปได้อย่างราบรื่น นั้นเป็นเรื่องยากยิ่งกว่า

ความซื่อสัตย์

เพื่อนแท้คือใครสักคนที่กล้าบอกในเรื่องที่คุณไม่อยากจะได้ยิน เขาเต็มใจให้คุณโกรธเขาถ้าหากว่าทำอย่างนั้นจะช่วยคุณได้ ดังนั้น จงถามตัวเองว่า เขากล้าบอกในเรื่องที่จะเป็นประโยชน์แก่ตัวคุณถึงแม้จะรู้ดีว่าอาจทำให้คุณโกรธเขาใช่หรือไม่

ความนับถือ

บอกเขาว่ามีบางเรื่องที่น่าตื่นเต้น เป็นข่าวดีที่กำลังเกิดขึ้นในชีวิตของคุณ แต่คุณยังไม่อยากเล่าให้เขาฟังในตอนนี้และดูว่าเขาจะคาดคั้นคุณหรือเปล่า ให้สังเกตความแตกต่างระหว่าง ความอยากรู้อยากเห็น กับ ความเป็นห่วงเป็นใย ถ้าเขายืนยันว่า “จะต้องรู้ให้ได้” นั้นหมายความว่าเขาเพียงแค่อยากจะเอาเรื่องนั้นไปนินทาต่อและไม่สนใจคุณอย่างแท้จริง เพื่อนที่ดีจะเคารพในการตัดสินใจของคุณ เขาอาจจะเอ่ยปากถามเรื่องนั้นบ้างเป็นครั้งคราว เพราะ้เขาสนใจสิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณ แต่เขาจะไม่คาดคั้นคุณอย่างเอาเป็นเอาตายให้คุณเล่าเรื่องเดียวนั้น ถ้าคุณบอกอย่างชัดเจนว่าคุณอยากจะเก็บเรื่องนี้เอาไว้ก่อน เหตุผลที่คุณเลือก “ความลับ” ที่เป็นเรื่องดี ๆ มากกว่าเป็นเรื่องร้าย ๆ ก็เพราะว่า ถ้าเพื่อนที่ดีรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติหรือว่าคุณกำลังรู้สึกแย่ เขาย่อมจะยืนกรานที่จะรู้เรื่องนั้นดียวนั้นเลยเพราะว่าเขาห่วงใยคุณ แต่คุณคงไม่อยาก ”ทดสอบ” เขาด้วยวิธีนี้หรอก เพราะคุณคงไม่อยากทำให้เพื่อนของคุณต้องรู้สึกวิตกกังวลใจเป็นแน่

ความเสียสละ

เขาพร้อมที่จะหยุดหรือเลิกทำอะไรบางอย่างหรือเปล่าถ้ามันจะทำให้คุณมีความสุข เขาจะยอมสละความพอใจส่วนตัวเพื่อความสุขของคุณไหม ใครเป็นคนตัดสินใจว่าคุณควรจะทำอะไร คำว่า ยอมลดราวาศอก อยู่ในบัญชีคำศัพท์ของเขาหรือเปล่า และเมื่อใดสถานการณ์ไม่ค่อยดีและเหลือเพียงตัวคุณกับเขา คนส่วนใหญ่จะรีบหาทางเอาตัวรอด จงสังเกตดูว่าเขาเป็นคนที่ออกความคิดหรือวางแผนที่จะช่วยแก้ไขสถานการณ์เพื่อให้คุณทั้งสองคน “หนีรอดไปได้โดยไม่มีใครได้รับอันตราย” หรือว่าเขาเพียงแค่ต้องการจะปกป้องตัวเองและรักษาผลประโยชน์ส่วนตัวเท่านั้น

ถ้าเขาสามารถผ่านแบบทดสอบสี่ข้อในจำนวนหกข้อ คุณน่าจะมีเพื่อนที่ดีคนหนึ่งซึ่งคุณสามารถพึ่งพาได้ ถ้าเขาสอบผ่านเพียงสามข้อหรือน้อยกว่านั้น คุณอาจต้องทบทวนความสัมพันธ์ของคุณหรือพูดคุยกับเขาในเรื่องนี้ อย่างไรก็ดี แน่นอนว่าคนเราล้วนมีเรื่องต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตอย่างมากมาย เรื่องเหล่านั้นอาจรบกวนจิตใจเราจนไมาสามารถให้ความสนใจกับความรู้สึกของผู้อื่นโดยที่เราไม่ได้ตั้งใจ ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดในการประเมินความสัมพันธ์จากปัจจัยทั้งหกข้อนี้ คุณควรจะทดสอบโดยใช้ระยะเวลาที่นานพอสมควร ไม่ใช่เพียงแค่ภายในยี่สิบสี่ชั่วโมงเท่านั้น

จากหนังสือ คู่มือสะกดใจคน ของเดวิด เจ ไลเบอร์แมน

กาลครั้งหนึ่ง บันทึกเรื่อง " ประเทศไทย "

หากใครชื่นชอบการอ่านนวนิยายจีนกำลังภายใน จะทราบว่าโดยแก่นแท้เนื้อในอันเป็นขนบดั้งเดิมของนวนิยายจีนกำลังภายใน เนื้อหาของมันมักจะเกี่ยวพันอยู่กับเรื่องบุญคุณความแค้น การยึดถือในคุณธรรมน้ำมิตร การมองสุขทุกข์ของผู้อื่นเป็นเรื่องที่มาก่อนความผ่อนคลายสบายใจของตัวเอง

นวนิยายกำลังภายในจึงยึดโยงอยู่กับสำนึกผิดชอบชั่วดี แม้แต่ตัวละครที่ถูกเรียกว่า “ตัวร้าย” ถ้าไม่ตกตายไปเสียก่อน ก็มักจะได้สำนึกกลับตัวกลับใจกลับกลายเป็นบุคคลที่รู้ว่าวิถีที่ถูกที่ควรเป็นเช่นไร

นั่นยังไม่นับรวมความรู้สึกเชิงรับผิดชอบที่จะต้องผดุงรักษาความถูกต้องดีงามราวกับเป็นภาระแห่งชีวิต

ปัจจุบันการเมืองของประเทศแบ่งขั่วอย่างชัดเจนและยังมองไม่ออกว่าปัญหาจะจบลงเช่นไร  สาเหตุของความวุ่นวายเกิดขึ้นจากการขัดแย้งทางความคิด ซึ่งแบ่งออกเป็นสองฝ่าย โดยมีการสร้างประเด็นว่า เกิดจากความบกพร่องทางความคิดของฝ่ายตรงข้าม

ในความเป็นจริงแล้วบางคนอาจจะมีจุดบอดข้อบกพร่องอยู่ที่พฤติกรรมอันยากจะทำใจยอมรับ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกคนย่อมจะรู้สึกทุกข์ร้อนเฉกเช่นคนอื่นๆ ยามเผชิญความทุกข์ยาก และอาจทำให้หลงลืมไปว่ามีสิ่งสำคัญที่ต้องรักษาไว้รวมกัน

ในยามสังคมและบ้านเมืองเกิดวิกฤติ สภาวะที่ผู้คนต่างมีความ “เชื่อ” โดยไม่นำพาต่อสิ่งใดนั้น บางทีก็น่าประหวั่นพรั่นพรึงไม่น้อย เพราะเป็นโอกาสที่จะเปิดช่องให้ทำเรื่องไม่ดีไม่งามได้อย่างสะดวกดาย และไม่มีขอบเขต

สุดท้าย เมื่อใดก็ตามที่หลงลืมหรือละเลยว่าที่จะเห็นว่าคนไทยทุกคนเป็นคนชาติเดียวกัน สภาวะดังกล่าวนี้อาจนำพาเราไปถึงจุดที่สูญเสียอย่างน่าเศร้าสลดใจอย่างถึงที่สุด

เมื่อไหร่จะสำนึก เจ็บกันมากี่ครั้งทำไมไม่เคยจำ

วอร์เรน บัฟเฟตต์ และการการเลือกทางเดินชีวิต

ชายคนหนึ่ง หลงใหลวิชาการเงินอย่างมาก

ชายคนนั้น...ยื่นใบสมัครกับมหาวิทยาลัยธุรกิจฮาวาร์ดอันเลื่องชื่อ

ชายคนนั้น...ถูกปฎิเสธในเวลาต่อมา

ชายคนนั้น...ไม่ยอมแพ้ เดินหน้าเข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยธุรกิจโคลัมเบีย

ชายคนนั้น...สำเร็จการศึกษา

ชายคนนั้น...ปัจจุบันมีสินทรัพย์รวมกว่า 44,000 ล้านเหรียญสหรัฐ จากเงินลงทุน

เพียง 100 เหรียญสหรัฐ

ชายคนนั้น...ชื่อ " วอเรน บัฟเฟตต์ " นักลงทุนอัจฉริยะ อภิมหาเศรษฐีอันดับสอง

ของโลก

วอร์เรน บัฟเฟตต์ เกิดที่เมืองโอมาฮา ในรัฐเนแบรสกา เป็นลูกชายคนเดียวและคนที่ 2 ในพี่น้อง 3 คนของผู้แทนอเมริกา, ฮาเวิร์ด บัฟเฟตต์ เริ่มเรียนชั้นประถมศึกษาที่ Rose Hill Elementary School ในโอมาฮา ได้ซื้อหุ้นครั้งแรกเมื่ออายุ 11 ปี เข้าเรียนระดับมหาวิทยาลัยที่วอร์ตัน มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย และได้ย้ายไปเรียนและจบการศึกษาที่มหาวิทยาลัยเนแบรสกา หลังจากนั้นได้ศึกษาต่อระดับปริญญาโทสาขาเศรษฐศาสตร์ที่ มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ในปี 1951

ยังศึกษาในระดับปริญญาโทสาขาเศรษฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบียอยู่นั้นวอร์เรน บัฟเฟต์ได้ศึกษาถึงปรัชญาการลงทุนจาก เบนจามิน เกรแฮม หลังจากนั้นก็นำปรัชญาการลงทุนจากฟิลิป ฟิชเชอร์ มาปรับประยุกต์เข้าด้วยกัน วอร์เรน บัฟเฟต์ ถือเป็นนักลงทุนที่เน้นคุณค่าของหุ้นที่มั่นคงในระยะยาวมากกว่าการเก็งกำไรในระยะสั้น

บัฟเฟตต์บริหาร บริษัทชื่อว่า เบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ (Berkshire Hathaway) ซึ่งมีมูลค่าหนึ่งแสนห้าหมื่นล้านดอลลาร์ แต่กลับเช่าพื้นที่สำนักงานเพียงชั้นเดียว นี้เป็นตัวอย่างของบุคคลที่ค้นหาสิ่งตนรัก เรียนรู้และมีความสุขที่จะอยู่กับมัน

ดูกันคลิปต้อนรับ โอลิมปิก ปี 2020 Welcome to Tokyo!!

หลายคงทราบข่าวกันแล้วว่า “ญี่ปุ่น” ได้รับคัดเลือกให้เป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาระดับโลก โอลิมปิก 2020 ที่โตเกียว!!!
ชาวญีปุ่นหลายกลุ่มเห็นเป็นโอกาสดีจึงยากจะโปรโมทโตเกียวให้ชาวโลกได้เห็น นี้เป็นส่วนหนึ่งครับเอามาฝากให้ดูกัน

5 องค์ประกอบหลักของธุรกิจที่ควรรู้ สำหรับ ผู้ประกอบการใหม่

การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน ส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตทางธุรกิจ องค์การต้องมีความสามารถปรับตัวและตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง การวางกลยุทธเพื่อใช้บริหารองค์การจึงมีความสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวอย่างยิ่ง

วันนี้ WIT จึงขอเสนอ  5 องค์ประกอบหลักในการกำหนดกลยุทธ์ ที่องค์การควรคำนึงถึง สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นทำธุรกิจ หรือผู้ที่อยากปรับมาตรฐานและยกระดับการบริหารธุรกิจให้เป็นระดับสากลขึ้น ดังนี้

1. ความสามารถหลักขององค์การหรือความสามารถที่องค์การต้องการจะมี
2. คำอธิบายความแตกต่างจากคู่แข่งขององค์การ
3. องค์การอยู่ในอุตสาหกรรมใดหรือกลุ่มอุตสาหกรรมใด
4. องค์การเตรียมวางแผนในเรื่อง การตลาด  การปฏิบัติการ  ไอที  การเงิน  และการพัฒนาองค์การ ตั้งแต่เริ่มต้น
5. ประเมินแนวโน้มแผนการเงิน

1. ความสามารถหลักขององค์การหรือความสามารถที่องค์การต้องการจะมี

   ความสามารถหลัก (Core competency) คือ สิ่งที่องค์การสามารถทำได้ดีที่สุด และมีหลักการ 3 ประการได้แก่ 1) ต้องให้ประโยชน์ต่อลูกค้า  2) ยากต่อคู่แข่งที่จะเลียนแบบ และ 3) เป็นความสามารถที่สามารโยกไปสู่สินค้าอื่นๆ หรือตลาดอื่นๆ ได้ดีด้วย

นอกจากนี้ ความสามารถหลักยังมาได้ในหลายรูปแบบด้วยค่ะ เช่น ความสามารถทางเทคนิค  ความเชี่ยวชาญ  กระบวนการที่น่าเชื่อถือ หรือความสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นกับลูกค้าและคู่ค้า  รวมทั้งยังรวมไปถึง การพัฒนาผลิตภัณฑ์  หรือวัฒนธรรมองค์กร ได้ด้วย

ตัวอย่างเช่น ซีพีผลิตสินค้าอาหารเกษตรและอาหารสัตว์โดยเฉพาะไก่และกุ้ง  ที่มีกระบวนการเลี้ยงดู ผลิต แปรรูป และการตลาดที่เฉพาะเจาะจง ในราคาไม่แพง ยากที่บริษัทอื่นๆ จะเลียนแบบได้ และมีความสัมพันธ์อันดีต่อทั้งภาคราชการและธุรกิจที่แน่นแฟ้น  หรือ บริษัทแอ๊ปเปิ้ล ที่มีความสามารถหลักในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เทคโนโลยี ที่มีดีไซน์ ใช้งานง่าย และล้ำยุค เช่น คอมพิวเตอร์ McIntosh, IPod, IPhone หรือSouthwest Airline สายการบินต้นทุนต่ำของอเมริกา ที่มีความสามารถหลัก 4 ด้าน ได้แก่ 1) ต้นทุนการจัดการต่อเที่ยวบินที่ต่ำ 2) มีเครือข่ายสนามบินจากจุดหนึ่งไปยังจุดหนึ่งที่ค่าใช้จ่ายการขนถ่ายไม่แพง 3) มีวัฒนธรรมองค์ที่มุ่งให้บริการลูกค้าและการประหยัดต้นทุนเป็นหลัก 4) มีความสามารถในการปล่อยเที่ยวบินได้มากกว่าคู่แข่ง (เครื่องบินอยู่บนอากาศเร็วแค่ไหน ก็มีรายได้เข้ามามากเท่านั้น) เป็นต้น

2. คำอธิบายความแตกต่างจากคู่แข่งขององค์การ

  การสร้างความแตกต่าง (Differentiate) ในความหมายของกลยุทธ์การบริหารจัดการ หมายถึง การเป็นที่หนึ่ง  เป็นผู้นำ  หรือทำอะไรที่ดีที่สุดเหนือกว่าคู่แข่ง  ทำอย่างไรให้ลูกค้าพึงพอใจที่จะเลือกเรามากกว่าคู่แข่ง

  ซึ่งองค์การจะต้องระดมสมองและลองปรึกษากันดูว่า "อะไร" กันแน่ที่จะช่วยให้องค์การสามารถสร้างความแตกต่างได้เหนือกว่า  และอาจจะใช้เวลานานกว่าจะหาเจอนะคะ

ตัวอย่างเช่น  ชาเขียวโออิชิ (โออิชิกรีนที) ที่มีรสชาดหวาน  มีกลิ่นและรูปแบบการดื่ม (เย็น - ไม่ได้ดื่มแบบชาเขียวร้อนทั่วไป) และบรรจุขวดเป็นเจ้าแรกๆ ของประเทศไทย   จักรยานแบบพับได้  ที่สามารถพับใส่ในท้ายรถยนต์ได้ ราคาไม่แพง  สร้างความสะดวกแก่ผู้บริโภคที่ต้องการนำจักรยานไปสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ  หรือ ทัวร์เที่ยวไทยที่รวมการทำฟันมาเป็นจุดเด่นและสร้างความแตกต่างแบบสร้างสรรค์  ขายให้แก่นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นและเอเชีย ที่ต้องการมาเที่ยวประเทศไทยและจัดให้นักท่องเที่ยวได้มาทำฟันที่มีคุณภาพดี ราคาประหยัด เป็นต้น

3. องค์การอยู่ในอุตสาหกรรมใดหรือกลุ่มอุตสาหกรรมใด

   องค์การควรจะกำหนดและจำแนกให้ได้ว่า จะจัดตัวเองอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมใด (Industry Intension) เช่น อุตสาหกรรมเครื่องเขียน  กลุ่มอุตสาหกรรมบริการ  ทำเทรนนิ่งและให้คำปรึกษา  อุตสาหกรรมซอฟแวร์และไอที  อุตสาหกรรมรถยนต์ หรือท่องเที่ยว  ซึ่งควรจะจำกัดให้แคบและชัดเจนที่สุด

กลยุทธ์ธุรกิจที่ดีนั้น  หากทราบว่าองค์การจัดอยู่ในธุรกิจ/อุตสาหกรรม/กลุ่มอุตสาหกรรมใดแล้ว  การวางแผนกลยุทธ์ในเวลาต่อมาจะเป็นเรื่องที่ไม่ยากเลย  นอกจากนี้ยังพบว่า องค์การที่มีกลยุทธ์ที่ดี  จะสามารถตอบคำถามได้ทันทีว่าตนเองอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมใด

ตัวอย่างเช่น  องค์การอยู่ในกลุ่มธุรกิจจัดสวน เน้นเฉพาะในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล (กำหนดให้แคบลง)  เมื่อแคบลงเช่นนี้ ต่อมาจะสามารถวางแผนกลยุทธ์ธุรกิจในเรื่องของ  กลยุทธ์ผู้บริโภค ( เป็น niche มั๊ย, จะเจาะกลุ่มไหน)  กลยุทธ์การตั้งราคา (ตามพื้นที่, ตามดีไซน์, หรืออะไร) กลยุทธ์การวางตำแหน่งองค์การ (รับจัดสวนอย่างเดียว, รับออกแบบอย่างเดียว, รับออกแบบและจัดสวนให้ด้วย, หรืออื่นๆ) เป็นต้น  ดังนั้น ยิ่งกำหนดได้แคบเท่าไหร่  จะช่วยให้สามารถวางแผนในรายละเอียดได้ชัดเจน และทำได้จริงมากขึ้น

4. องค์การเตรียมวางแผนในเรื่อง การตลาด  การปฏิบัติการ  ไอที  การเงิน  และการพัฒนาองค์การ ตั้งแต่เริ่มต้น

  ซึ่งจะช่วยในการวางแผนเผื่ออนาคตไปได้อีกหลายๆ ปี และช่วยในการสร้างเป็นแผนกลยุทธ์และแผนการดำเนินงานโดยละเอียดได้

  การคิดเรื่องนี้ จะช่วยชี้แนะแนวทางการใช้ทรัพยากรและทุน  และการคิดวางแผนในแต่ละด้านอย่างละเอียด(และสามารถทำได้จริง) ก็จะช่วยให้ธุรกิจสามารถอยู่รอดได้อย่างมั่นคงท่ามกลางกระแสเศรษฐกิจที่ผันผวนได้เป็นอย่างดี

5. ประเมินแนวโน้มแผนการเงิน ว่าจะวางแผนอย่างไรในอนาคต 3-5 ปีข้างหน้า

  ยิ่งถ้ามีหุ้นส่วนเยอะๆ ก็ยิ่งจำเป็นจะต้องวางแผนการใช้จ่ายเงินทุนให้มีประสิทธิภาพสูงที่สุดด้วย

  การวางแผนกลยุทธ์ธุรกิจโดยรวม จะต้องคำนึงถึงแผนการเงินประจำปีเอาไว้ด้วย  เพื่อควบคุมการใช้จ่ายให้อยู่ภายในงบประมาณที่กำหนด  ไม่ใช้จ่ายในสิ่งที่ไม่ได้วางแผนเอาไว้ หรือจ่ายฟุ่มเฟือยในเรื่องอื่นๆ ที่ยังไม่จำเป็นต่อธุรกิจในระยะแรก

  ถ้าหากจำเป็นจะต้องมีที่ปรึกษาด้านการเงิน (และบัญชี) ก็ต้องจัดหาบุคคลที่มีความรู้ความสามารถทางด้านนี้โดยตรงที่เข้มงวดและให้คำแนะนำที่ดีได้  หรือจ้างบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินมืออาชีพ  เพื่อช่วยให้องค์การสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างโปร่งใส สมดุล และอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล

WIT ขออวยพรให้ผู้ประกอบการใหม่ทุกท่านจงประสบความสำเร็จสมความตั้งใจ

เรื่องของ โค้ก กับการค้นพบโดยบังเอิญ

COCA COLA เรียกสั้น ๆ ว่าโค้ก Coke เครื่องดื่มยอดนิยมที่วางขายในกว่า 200 ประเทศ

ส่วนผสมของโค้กถือเป็นความลับของบริษัทเช่นเดียวกับสูตรผสมของ เป๊ปซี่ เคเอฟซี และ แม็คโดนัลด์ ส่วนผสมของโค้กนั้น มีพนักงานในบริษัทโคคาโคล่าเพียงไม่กี่คนที่รู้และได้มีส่วนร่วมในขั้นตอนการผสม แต่รู้มั้ยครับว่า สาเหตุที่ทำให้เครื่องดื่มยอดนิยมนี้ เกิดเพราะความบังเอิญ

ปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19  เภสัชกรใน แอตแลนต้าที่ชื่อ John Pemberton พยายามที่จะคิดสูตรยาสำหรับแก้ปวดหัว เขาใช้ส่วนผสมหลายอย่าง -ที่เป็นความลับจนทุกวันนี้- จนเกิดเป็นโค้กขึ้นมา กว่าโค้กจะเป็นที่นียมได้ ก็ต้องใช้เวลาถึง 8 ปีในร้านขายยาของเขา หลังจากนั้น นักธุรกิจเอซา กริกส์ แคนด์เลอร์ (Asa Griggs Candler) ถึงจะได้เอาน้ำดำมาใส่ขวดขายจนทุกวันนี้ ผลิตโคคา-โคล่า ซึ่งกลยุทธ์การตลาดของเขานำโค้กครองตลาดเครื่องดื่มอัดลมทั่วโลกตลอดคริสต์ศตวรรษที่ 20

อยากบังเอิญอย่างนี้มั่งจัง

กิจกรรมของเด็ก ช่วงหน้าหนาว

สวัสดีครับ ช่วงนี้พยากรณ์บอกว่าอากาศจะเริ่มจะหนาวลงอีก กรุงเทพฯจะมีอากาศลดลงถึง 16-17 องศา หนาวที่สุดในรอบ 20 ปี เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศเลยเอารูปกิจกรรมของเด็ก ๆ บ้านผม มาลงให้ดูกันแก้หนาว น่ารักดี

  แต่งหน้าเรียบร้อยพร้อม 

เหวอ.. อะไรง่ะ

 

คนสวย หน้างอ

ยิ้มแล้ว พอเห็นกล้อง  หลานผม! ครับ หลานโผมมม!.....

กิจกรรมของเด็ก ๆ ที่โรงเรียนจัดให้จะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการการเรียนรู้ของเด็ก ให้กลายเป็นคนกล้าแสดงออก(สำหรับหลานผมกล้าแสดงออกเกินไปริเปล่า) น่ารักดีครับ

ถังหมิงหวง กับ ตำนานพรรคกระยาจก

พรรคกระยาจก เป็นพรรคใหญ่พรรคหนึ่งในวงยุทธจักรจีน มีระเบียบแบบแผนรัดกุมมาก พรรคกระยาจกในบางยุคมีสมาชิกมากจนกลายเป็นพรรคอันดับหนึ่ง

ผู้นำ หรือ “หัวหน้ากระยาจก” ไม่ต้องออกไปขอทานเอง   เพราะหัวหน้าขอทานมีแส้หนังสำคัญอันหนึ่ง ใช้แขวนหน้าประตูใหญ่ของเจ้าภาพงาน ถ้าลูกพรรคมาขอทานบ้านงานเห็นแส้หนังก็จะไปโดยดี บางครั้งการจัดงานของอำนาจรัฐท้องถิ่นต้องการจัดงาน ต้องไปขอความร่วมมือจากพวกเขา งานจึงสำเร็จด้วยดี แส้หนังของหัวหน้าพรรค อันนี้มันมีความเป็นมาไม่ธรรมดา ดังนี้

ในสมัยราชวงศ์ถัง จักรพรรดิถังหมิงหวง ต้องหนีออกนอกวังเพราะถูกปองร้าย พระองค์แฝงตัวเข้าไปคบค้ากับบรรดาพวกขอทาน จนได้รับการยอมรับจากพวกเขา และได้เป็นหัวหน้าขอทาน ในที่สุดฐานะที่เป็นจักรพรรดิก็เปิดเผย บรรดาขอทานพากันปฏิญานว่าจะแก้แค้นแทนหัวหน้า ถังหมิงหวงรู้สึกซาบซึ้ง จึงได้นำเส้นหนังมาทำเป็นแส้รูปทรงกระบอกคล้ายมังกร ให้ชื่อว่า “หลงเปียน” จากนั้นปฏิญานว่า สักวันหนึ่งถ้า ได้ขึ้นครองราชย์ใหม่ จะกำจัดขุนนางกังฉินให้สิ้นซาก เพื่อพี่น้องทุกคนได้ลืมตาอ้าปากกันได้

ถังหมิงหวงได้ประทานแส้มังกรไว้เป็นมรดกประจำพรรคกระยาจกแล้วให้สัตย์ว่า “แส้อาญาสิทธิ์นี้ เหนือขึ้นไปใช้ตีทรราช ต่ำลงมาตีเหล่าอำมาตย์และตีลูกพรรคกระยาจกที่ทรยศ ถ้าข้ากลับขึ้นครองราชย์ใหม่แล้วลืมพี่ลืมน้อง พวกเจ้าทุกคนล้วนใช้แส้หนังนี้ตีข้าให้ตายได้ทันที”

แส้มังกรได้สืบทอดต่อกันมาในบรรดาหัวหน้าพรรคกระยาจกนับร้อย นับพันปี ในงานใหญ่ต่าง ๆ มักเชิญหัวหน้าขอทานไปเป็นแขก หัวหน้าขอทานจะถูกดูแลเอาใจใส่อย่างดี ได้นั่งโต๊ะประธาน แส้มังกรนี้บรรดาขอทานเห็นแล้วจึงเคารพยำเกรงกันมาก เพราะเป็นสัญลักษณ์ของหัวหน้าที่สามารถใช้พิจารณาโทษเป็นโทษตายของคนในพรรคที่ไม่เชื่อฟังได้

ลองทำดูสักครั้ง กับกิมจิ อาหารประจำชาติเกาหลี

กิมจิ เป็นอาหารประจำชาติของคนเกาหลี เชื่อกันว่าการทำกิมจิเป็นการดองผักที่ถือกำเนิดขึ้นในศตวรรษที่ 7 ในยุคนั้นช่วงฤดูหนาวในประเทศเกาหลี จะมีอากาศหนาวจัดไม่เหมาะกับการเพาะปลูก ชาวเกาหลีจึงคิดวิธีการถนอมอาหารขึ้น เพื่อมาทดแทนผักสดที่หาได้ยาก

หนึ่งในนั้นคือการทำผักดองเค็มด้วยเกลือหมักในไหแล้วนำไปฝังดิน จึงเป็นจุดกำเนิดของกิมจิในยุคสมัยต่อมา คำว่ากิมจิน่าจะเริ่มมาจาก shimchae ที่แปลว่าผักที่มีเกลือใส่ลงไปจ ากนั้นชื่อก็เริ่มเปลี่ยนไป dimchae แล้วก็เป็น kimchae จนสุดท้ายก็กลายมาเป็นชื่อ kimchi

ดูหนังเกาหลีมาหลายเรื่องวันนี้ได้โอกาสดี ลองทำกิมจิกินซะเลย ผลเป็นดังภาพละครับ

วิธีทำก็หาเอาทางอินเตอร์เน็ต เสร็จแล้วรสชาติเป็นยังไงต้องรออีกสองอาทิตย์ แล้วจะมาบอกครับ

เทคนิคคำถาม จับโกหกแฟน

คุณผู้หญิงหลาย ๆ คนคงเคยมีปัญหา สงสัยว่าคุณแฟนตัวดีนั้นพูดจริงกับคุณรึเปล่า วันนี้ WIT มีเทคนิคการตรวจสอบว่า ข้ออ้างของเขานั้นจริงเท็จอย่างไร

เทคนิคนี้เราเรียกว่า “ปริศนาชวนให้คิด” วิธีการคือให้คุณผู้หญิงหยิบยกเอาหลักฐานชิ้นหนึ่งขึ้นมาแล้วสังเกตดูว่า พ่อตัวดีของคุณจัดการกับเรื่องนี้อย่างไร

ตัวอย่างเช่นคุณผู้หญิงสงสัยว่าพ่อตัวดีไม่ได้ไปดูหนังกับเพื่อนตามที่บอก แต่ออกไปเตร็ดเตร่กับหญิงเซ็กซี่คนอื่นของเขาจนมืดค่ำ ถ้าถามเขาต้องตอบว่า “ไปดูหนัง” แน่นอน ถึงแม้เขาจะไม่ได้ไปก็ตาม และคุณผู้หญิงก็จะไม่มีทางรู้ได้เลยว่าจะเชื่อเขาได้หรือไม่

ด้วยเหตุผลนี้ คุณผู้หญิงจะต้องกุเรื่องขึ้นมาเรื่องหนึ่ง  เช่น ถามว่า “เอ่อนี่ตัวเอง เค้าได้ยินมาว่ารถแถวนั้นมันติดขัดไปหมด เพราะมีอุบัติเหตุรถชนกันตรงหน้าโรงหนังพอดีเลยใช่ไหม ค่ะ”  แล้วรอดูว่าเขาจะตอบกลับมาว่าอย่างไร

ถ้าเขาไปดูหนังจริง ๆ เขาจะตอบในทันทีว่า มีรถติดหรือไม่มี ถ้าเขาไม่ได้ไปดูหนัง เขาย่อมไม่รู้ว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้นหรือไม่  และไม่รู้ว่าควรตอบว่ามีรถติดหรือไม่ นี่เป็นเพราะว่าคุณแฟนกำลังเผชิญหน้ากับปริศนาที่ต้องขบคิดอย่างหนัก

และคณผู้หญิงต้องมั่นใจว่า “หลักฐาน” ชิ้นนี้เป็นเรื่องที่เป็นไปได้แต่ว่าไม่เป็นความจริง จากนั้นรอดูว่าเขาจะตอบอย่างรวดเร็วด้วยคำตอบที่ถูกต้องหรือไม่ ถ้ามีอาการลังเล รีบเปลี่ยนเรื่องคุย หรือตอบคำถามผิดละก็แสดงว่าเขากำลังโกหกคุย

คุณผู้หญิงสามารถนำเอาเทคนิคนี้ไปใช้ได้ในทุกสถานการณ์ ที่ต้องการตรวจสอบข้ออ้างของคุณแฟน สุดท้ายก็ควรคุยกันดีดีนะครับอย่าให้ถึงกับเลือดตกยางออกเลย

จากหนังสือ คู่มือสะกดใจคน ของเดวิด เจ ไลเบอร์แมน

เคล็ดลับ การหาอสังหาริมทรัพย์เพื่อลงทุน การฟาร์มมิ่ง (Farming)

การลงทุนในบ้านและที่ดินสำคัญคือการเลือกทำเล และภารกิจต่อมาคือเลือกอสังหาริมทรัพย์ดี ๆ ในทำเลให้ได้  ทั้งนี้ผู้ลงทุนจะต้องลงพื้นที่สำรวจอสังหาริมทรัพย์ด้วยตนเองจึงจะทำให้ประสบความสำเร็จได้

เทคนิคในการควานหาอสังหาริมทรัพย์หรือบ้านในพื้นที่ ซึ่งจัดว่าทำได้ง่ายแต่ให้ผลเป็นที่น่าพอใจมาก ก็คือการ “ฟาร์มมิ่ง (Farming)”

ฟาร์มมิ่ง (Farming) หรือการทำฟาร์มเพาะเลี้ยงขึ้นมาเอง แนวคิดหลักก็คือเลือกหาอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ที่กำหนดเท่านั้น โดยจะเน้นหาในทำเลดีที่สุดเป็นหลัก วิธีการนี้จะช่วยให้การควานหาอสังหาริมทรัพย์เพื่อลงทุนทำได้ง่ายและเป็นไปโดยมีประสิทธิภาพมากที่สุด

               เช่น อาจกำหนดพื้นที่ทำเลลงทุนไว้จำกัดเพียง 4 ทำเลเท่านั้น จากนั้นก็จะทำการเฝ้าสังเกตและดูแลติดตามความเคลื่อนไหวทุกอย่างในพื้นที่เหล่านั้นอย่างเอาใจใส่ โดยทำอย่างสม่ำเสมอไม่ต่างอะไรจากคนทำฟาร์มที่ต้องคอยดูแลความเป็นไปในพื้นที่ฟาร์มของตัวเอง

               เมื่อทำไประยะหนึ่งแล้ว ผู้ทำฟาร์มมิ่งจะเกิดความเชี่ยวชาญแบบเจาะจงกับทำเลขึ้นมาโดยอัตโนมัติโดยสามารถจับความเคลื่อนไหวของการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ฟาร์มมิ่งว่าปัจจุบันเป็นเช่นไรเมื่อเทียบกับช่วงที่ผ่านมา ราคาซื้อขายอสังหาริมทรัพย์แต่ละประเภท หลัง ขนาดซื้อขายกันที่ราคาเท่าไหร่ และส่วนใหญ่ผู้ซื้อเป็นใคร

               ข้อมูลที่ได้จาการทำฟาร์มมิ่งสามารถนำมาใช้ในการวางแผนและกำหนดจังหวะโอกาสในการเข้าลงทุน เช่น พื้นที่และประเภทอสังหาริมทรัพย์ชนิดไหนน่าสนใจมากที่สุด ช่วงเวลากับราคาเสนอซื้อเป็นเท่าไหร่ และควรขายทำกำไรเมื่อใด

                ทั้งนี้ความเชี่ยวชาญที่เกิดขึ้นจาการทำฟาร์มมิ่งนี้ จะเป็นส่วนเสริมสำคัญเพื่อจับสัญญาณการเปลี่ยนแปลงและสามารถมองเห็นแนวโน้มความเป็นไปของอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ได้ชัดเจน ช่วยให้ลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด