ถ้ารวยแล้วจะทำอะไร ? เอาเงินไปทำบุญ ไปทำศัยกรรมที่เกาหลี ซื้อบ้านสวย ๆ แต่งงานกับผู้หญิงที่ตัวเองรัก เที่ยวรอบโลก ปาร์ตี้สังสรรค์ทุกวัน หรือสร้างเขื่อนปั่นไฟเป็นของตัวเอง
ความต้องการทุกคนแตกต่างกันไป แต่มีคนรวยคนหนึ่งใช้ชีวิตแตกต่างจากที่ได้กล่าวมาข้างต้น เขาคนนั้นไม่ใช้เแค่รวยธรรมดา เรียกได้ว่ารวยเข้าขั้นมหาเศรษฐีระดับโลก แต่กลับช้ชีวิตแบบสมถะมาก ๆ
เขาคือ วอร์เรน บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีที่รวยติดอันดับ 1 ใน 5 ของโลกทุกปี
วอร์เรน บัฟเฟตต์ใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายในบ้านขนาด 5 ห้องนอนในเมืองโอมาฮา อันเป็นหลังที่เขาซื้อไว้ในราคา 31,500 ดอลลาร์ หรือประมาณล้านบาท ตั้งแต่ปี 2518
ที่บ้านและโต๊ะทำงานไม่มีเครื่องคอมพิวเตอร์ ไม่มีโทรศัพท์มือถือ กินอาหารง่ายๆ
และขับรถคันเก่าไปไหนมาไหนด้วยตัวเอง
ที่เขาทำแบบนี้ไม่ใช่เพราะตระหนี่ถี่เหนียว
แต่ สิ่งที่เขามีอยู่ก็เพียงพอแล้ว สำหรับการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
เขาแนะนำเยาวชนคนหนุ่มสาวว่า :
ที่สุดของชีวิต คือ มีปัจจัย ๔ อย่างเพียงพอนั่นเอง
มหาเศรษฐีหรือยาจก : กินข้าวแล้วก็อิ่ม 1 มื้อ เท่ากัน
มหาเศรษฐีหรือยาจก : มีเสื้อ?้ กี่ชุด ก็ใส่ได้ทีละชุด เท่ากัน
มหาเศรษฐีหรือยาจก : มีบ้านหลังใหญ่แค่ไหน พื้นที่ที่ใช้จริงๆ ก็
เหมือนกันคือ ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัว เหมือนกัน
มหาเศรษฐีหรือยาจก : จะมียารักษาโรคดีแค่ไหน ยื้อชีวิตไปได้นานเพียงไร สุดท้ายก็ต้องตาย เหมือนกัน
ถึงแม้ว่าเขาจะมีชื่อเสียงจากการรวยแล้วแต่ใช้ชีวิตที่สมถะ แต่เขายังมีชื่อเสียงอีกด้านจากความใจบุญ เพราะเขาบริจาคเงินให้แก่องค์กรการกุศล 5 องค์กร สูงถึง………………….. 1 ล้านล้านบาท
เมื่อมหาเศรษฐีทำได้ คนอีกจำนวนมากในโลกนี้ก็น่าจะทำได้เช่นกัน โดยเฉพาะในส่วนของการเลิกใช้จ่ายสิ่งที่เป็นส่วนเกินความจำเป็น ซึ่งพฤติกรรมแบบนี้สามารถกระทำได้ ไม่ว่าคุณจะมีรายได้เท่าไรก็ตาม และเมื่อฝึกหัดจนเป็นนิสัยแล้ว ก็จะเห็นว่าหนทางสู่ความเป็นเศรษฐี ขอให้ทุกคนสมหวัง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น