ใครอยากรู้บ้างว่าจะแยกคนธรรมดากันคนที่เป็นแม่มดยังไง ต่อไปนี้เป็นวิธีการดูว่าใครเป็นแม่มดในยุโรประหว่าง ศตวรรษที่ 15 - 17
1. มีผมสีแดง เพราะเชื่อกันว่าผู้รับใช้ของซาตานจะมีผมแดง
2. หญิงชราหรือหญิงสาวที่อยู่ตามลำพัง จะถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มด
3. รูปรางแปลกกว่าคนทั่วไป เช่น ตัวเล็กกว่าคนปกติ ใหญ่กว่าคนปกติ แก่กว่าหรืออ่อนกว่าคนปกติ
4. มีของแปลก ๆ อยู่ในบริเวณบ้าน หรือมีพรรณไม้แปลก ๆ เพื่อต้มน้ำยาต่าง ๆ
5. ถูกซัดทอดจากแม่มดคนอื่นที่ถูกจับได้ก่อนหน้า ถ้าคนในครอบครับถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มด คนในครอบครัวก็จะถูกสงสัยว่าเป็นไปด้วย
6. พูดไม่ดีเกี่ยวกับศาสนา พูดลบหลู่พระเ้จ้า ไม่นับถือศาสนา
7. เหาะได้ เชื่อกันว่าแม่มดเหาะได้
เมื่อได้คนที่มีลักษณะข้างต้น ก็จะนำมาทดสอบอีกครั้งดังต่อไปนี้
1. ลนไฟที่ข้อมือ ถ้าเป็นแผล แสดงว่าเป็นแม่มด ถ้าไม่เป็นแผลแสดงว่า ไม่เป็น
2. โกนขนออก เพื่อหาเครื่องหมายของซาตาน ปานหรือไฝ่ ฝ่า ก็อาจเป็นเครื่องหมายของซาตาน
3. จับโยนลงน้ำถ้าลอยก็ถือว่าเป็นแม่มด
ด้วยวิธีการจำแนกแม่มดดังกล่าว ในสมัยนั้นผู้ที่ถูกเชื่อว่าเป็นแม่มดได้ถูกแขวนคนหรือนำไปเผาทั้งเป็นนับแสนคนเลยที่เดียว
นอกจากนี้ในยุโรปยังมีความเชื่อเรื่องแมวดำเป็นสัตว์เลี้ยงของแม่มด และจะถูกเผาทั้งแมวทั้งคน บางตำนานถึงขนาดเชื่อว่าแม่มดสามารถแปลงร่างเป็นแมวได้ มีเรื่องเล่าว่า ในคืนหนึ่งมีแมวเข้าไปขโมยอาหารและถูกทำร้ายจนบาดเจ็บ และมันได้หลบเข้าไปในบ้านหญิงชราผู้หนึ่ง ถึงเวลาเช้าหญิงชราผู้นั้นมีอาการบาดเจ็บในตำแหน่งเดียวกับแมว
ส่งผลให้แมวถูกล่าไปด้วย ทั่วทั้งยุโรปฆ่าแมวกันอย่างหนัก เมื่อไม่มีแมว กองทัพหนูก็ตามมากาฬโรคก็เลยระบาดหนักในยุโรป กรรม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น