วันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2557

มาร์ค ทเวน นักเขียนผู้สร้างแรงบันดาลใจให้ชีวิต


เอาคำคมของนักเขียนคนสำคัญของอเมริกัน เจ้าของนามปากกา มาร์ค ทเวน มาฝากเพื่อเป็นกำลังใจให้ทุกคนนะครับ
แซมมวล แลงฮอร์น คลีเมนซ์ (Samuel Langhorne Clemens พ.ศ. 2378-2453) นักเขียน และนักเขียนเรื่องขบขันชาวอเมริกันเจ้าของนามปากกา มาร์ค ทเวน (Mark Twain) เกิดวันที่ 30 พฤศจิกายนพ.ศ. 2378 ในเมืองฟลอริด้า รัฐมิสซูรี่ เป็นบุตรคนที่หกจากเจ็ดคนในครอบครัว เมื่ออายุได้ 4 ขวบครอบครัวได้ย้ายไปยังเมืองฮันนิบาล รัฐมิสซูรี่ ซึ่งต่อมาได้เป็นฉากสำคัญในนิยายของเขา โดยเฉพาะประเด็นการค้าทาส
ผลงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ มาร์ก ทเวน ได้ทิ้งไว้ให้กับ วรรณกรรมอเมริกัน ก็คือฮัคเคิลเบอรี่ ฟินน์ ผจญภัย
นิยายเรื่องอื่นที่เป็นที่รู้จักกันดี คือ "ทอม ซอว์เยอร์ ผจญภัย", "The Prince and the Pauper", "A Connecticut Yankee in King Arthur's Court" และงานเขียนสารคดี "Life on the Mississippi"
ทเวน เริ่มต้นด้วยการเป็นนักเขียนบทกลอนขำขัน แต่สุดท้าย เขาเป็นผู้บันทึกประวัติศาสตร์ที่น่ากลัว เกือบจะเรียกได้ว่าแหกคอกเลยก็ว่าได้ จากที่ได้ประสบกับ ความยโสโอหัง ความเจ้าเลห์เพทุบาย และการเข่นฆ่ากันของเหล่ามนุษยชาติ ในช่วงตอนกลางของอาชีพ เขาได้ผสมผสาน ความขบขัน การดำเนินเรื่องที่แข็งขัน และการวิจารณ์สังคม เอาไว้อย่างไม่มีใครเปรียบ ในงานเขียนของเขา ฮัคเคิลเบอรี่ ฟินน์ พจญภัย
ทเวน เป็นผู้เชี่ยวชาญการใช้ภาษาชาวบ้าน เขาเป็นผู้ที่ช่วยสร้างวรรณกรรมอเมริกัน ที่มีลักษณะเฉพาะตัว จากภาพลักษณ์ และภาษาของชาวอเมริกัน และได้ทำให้มันเป็นที่นิยมขึ้นมา
ทเวน นั้นมีความหลงใหลในวิทยาศาสตร์ เขาเป็นเพื่อนที่คบหามานานกับนิโคลา เทสลา ทั้งคู่มักจะใช้เวลาร่วมกันอย่างสม่ำเสมอ (เช่น ใน ห้องทดลองของเทสลา) เรื่อง A Connecticut Yankee in King Arthur's Court นั้น ก็ได้ใช้การเดินทางผ่านกาลเวลา ซึ่งเดินทางจากช่วงเวลาของเขา กลับไปในยุคของกษัตริย์อาเธอร์ และได้นำความรู้ทางวิทยาศาสตร์ไปใช้สร้างเทคโนโลยีใหม่ ๆ ให้กับยุคนั้น


คำคมของมาร์ค ทเวน

“ให้เราใช้ชีวิตในแบบที่เมื่อเราตายสัปเหร่อยังเสียใจ”

เรารู้จักมาร์ค ทเวนจากหนังสือชื่อดังหลายเล่ม เป็นต้นว่า Adventures of Huckleberry Finn และ The Adventures of Tom Sawyer มาร์ค ทเวนเป็นนักเขียนที่มีทั้งอารมณ์ขันและฝีปากจัดจ้าน มีผู้นิยมหยิบยกสำนวนของเขามาเป็นแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตมากมาย ต่อไปนี้เป็นข้อคิด 9 ข้อจากมาร์ค ทเวน

1. “คนเราจะอยู่อย่างสบายใจไม่ได้ ถ้าเราไม่ยอมให้ตัวเองสบายใจ”
เห็นดีเห็นงามในสิ่งที่ตัวเองทำ ไม่ต้องรอให้คนอื่นมาเห็นดีเห็นงามด้วย ทำลายกำแพงภายในจิตใจคุณเองแล้วลงมือทำ

2. “อายุอยู่ที่ใจถ้าคุณไม่สน มันก็ไม่สำคัญ”
ข้อจำกัดหลายประการในการดำเนินชีวิตอยู่ที่จิตใจเราคิดไปเอง ให้ความสำคัญกับความคิดของผู้อื่นมากกว่าความต้องการของตัวเอง ถ้าคุณไม่สน คนอื่นก็ดูเหมือนจะไม่สนไปด้วย และเมื่อคุณไม่สนก็จะไม่มีอุปสรรคในการลงมือทำสิ่งที่คุณอยากทำ

3.“อารมณ์ขันเป็นพรอันประเสริฐสุดของมนุษยชาติ”
ร่าเริงเข้าไว้และสนุกกับชีวิต อารมณ์ขันและเสียงหัวเราะเป็นเครื่องมือที่น่าประหลาด มันสามารถพลิกสถานการณ์ที่เคร่งเครียดให้กลายเป็นเรื่องขบขันได้  เมื่อจิตใจปราศจากอารมณ์ด้านลบ การแก้ปัญหาหรือดำเนินงานใดๆย่อมง่ายขึ้น

4. “ความโกรธเป็นเหมือนน้ำกรดมันทำร้ายภาชนะบรรจุมากกว่าสิ่งที่มันหลั่งรด”
ความโกรธทำให้เราควบคุมสถานการณ์ไม่ได้ ความโกรธมักจะทำร้ายตัวเรามากกว่าคนที่เราโกรธ  เพราะมีแต่เราเท่านั้นที่รู้สึกถึงความโกรธ ผู้ที่เราโกรธอาจไม่รู้ตัวเลยก็ได้ จงเดินตรงเข้าไปพูดคุยกับเขาและแก้ปัญหาเสีย มิฉะนั้นก็จงปล่อยวางความโกรธ

5.“อย่ามัวแต่พูดว่าโลกเป็นหนี้คุณ โลกไม่ได้ติดค้างอะไรคุณเลย”
คุณอาจกำลังคิดว่าเพราะคุณเป็นคนดี คุณจึงควรได้รับผลตอบแทนที่ดี เมื่อไม่ได้คุณก็หงุดหงิด เพราะโลกจะไม่ให้สิ่งที่คุณคาดหวัง โลกไม่ได้เป็นหนี้คุณ คุณอยากได้อะไรต้องแสวงหาเอาเอง

6.“คนที่มีความคิดใหม่ๆ จะเป็นตัวประหลาดไปจนกว่าความคิดนั้นจะประสบความสำเร็จ”
ถ้าคุณริเริ่มเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างหรือทำอะไรที่ผิดจากผู้คนปกติเขาทำกัน ผู้อื่นอาจมีความคิดเห็นต่อคุณแตกต่างกันไป บางคนอาจชื่นชอบ บางคนอาจทำให้คุณหมดกำลังใจ  ความรู้สึกของคนพวกนี้ไม่เกี่ยวกับคุณ มันขึ้นกับว่าพวกเขามองตัวเองอย่างไรจึงถ่ายทอดออกมาเป็นคำพูดและตัดสินคุณ ...อย่าหมดกำลังใจเดินหน้าต่อไป

7. “ดึงความคิดของคุณให้ออกจากปัญหา”
จิตใจของคุณมุ่งอยู่ที่ไหน จะเป็นตัวบอกเองว่าเหตุการณ์จะออกหัวหรือก้อย ถ้าคุณมุ่งคิดถึงแต่ปัญหา คุณก็จมอยู่กับความทุกข์ ความจริงแล้วเป็นเรื่องธรรมดาที่คนเราจะคิดวนเวียนอยู่ในปัญหาของตัวเอง แต่คุณสามารถคิดถึงด้านบวกของสถานการณ์เดียวกันนั้นได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องฝึกฝน แล้วคุณจะควบคุมจุดโฟกัสความคิดของคุณได้ดียิ่งขึ้น

8.“วิธีที่ดีที่สุดในการให้กำลังใจตัวเองคือ พยายามให้กำลังใจผู้อื่น”
อาจฟังดูขัดแย้งเล็กน้อย แต่วิธีที่ดีที่สุดที่ทำให้ตัวเองรู้สึกดีก็คือช่วยผู้อื่นให้รู้เขารู้สึกดี มนุษย์เรามีแนวโน้มที่จะให้และรับซึ่งกันและกันอยู่แล้ว เมื่อคุณให้ผู้อื่น ผู้อื่นก็จะรู้สึกอยากให้คุณบ้างเป็นการตอบแทน เมื่อเพื่อนช่วยคุณ ก็เป็นแรงบันดาลใจให้คุณช่วยผู้อื่นต่อไป

9. ยี่สิบปีนับจากนี้ คุณจะผิดหวังกับสิ่งที่ไม่ได้ทำมากกว่าสิ่งที่ทำลงไปแล้ว เพราะฉะนั้นจงปลดเชือกรั้งใบ แล่นเรือออกจากท่า กางใบเรือรับลมตะวันออก สำรวจ ฝัน ค้นหา.”
ทำในสิ่งที่คุณอยากทำ


อ้างอิง  : บทความของ  Henrik Edberg

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น