“ ขนฺติโก เมตฺตวา ลาภี ยสสฺสี สุขสีลวา ปิโย เทวมนุสฺสานํ มนาโป โหติ ขนฺติโก แปลว่า ผู้มีความอดทน นับว่ามีเมตตา มีลาภ มียศ และ มีสุขเสมอ , ผู้มีความอดทน ย่อมเป็นที่รัก ชอบใจของเทวดา และ มนุษย์ทั้งหลาย ”
ความอดทน มาจากคำว่า ขันติ หมายถึง การรักษาปกติภาวะของตนไว้ได้ ไม่ว่าจะถูกกระทบกระทั่งด้วยสิ่งอันเป็นที่พึงปรารถนา หรือไม่พึงปรารถนาก็ตาม มีความมั่นคงหนักแน่น
การสร้างตัวด้วยความอดทน
งานทุกชิ้นในโลกไม่ว่าจะเป็นงานเล็กงานใหญ่ ที่สำเร็จขึ้นมาได้นอกจากจะอาศัยปัญญาเป็นตัวนำแล้ว ล้วนต้องอาศัยคุณธรรมอันหนึ่งเป็นพื้นฐานจึงสำเร็จได้ คุณธรรมอันนั้นคือ ขันติ
เคยมีคนไปถาม โทมัส อัลวา เอดิสันว่า อัจฉริยะเกิดจากอะไร เขาตอบกลับไปโดยไม่คิดว่า
“ อัจฉริยะเกิดจากแรงบันดาลใจเพียงแค่ 1 เปอร์เซ็นต์ อีก 99 เปอร์เซ็นต์ เกิดจากความอดทนพากเพียร ทำไม่หยุด”
คนที่ต้องการสร้างตัว สิ่งแรกที่ต้องมีก็คือความอดทน ช่วงแรกอาจยังไม่ต้องคิด ใครมีงานอะไรให้ทำก็ทำมันทุกอย่างให้หมด แล้วก็จำอย่างเดียว เพราะเรายังโง่อยู่ เมื่อผ่านการทำงานหลายอย่างจะทำให้ความรู้ของเรามีมากขึ้น ถ้าเราไม่อดทนก็จะไม่ทันได้เรียนรู้ และอาจล้มเลิกความตั้งใจทำงานเสียก่อน
ลักษณะที่สำคัญยิ่งของขันติ คือ ตลอดเวลาที่อดทนอยู่นั้น จะต้องมีใจผ่องใส ไม่เศร้าหมอง สรุปคือ
๑.อดทนถอนตัวหรือหลีกเลี่ยงจากความชั่วให้ได้
๒.อดทนทำความดีต่อไป
๓.อดทนรักษาใจไว้ไม่ให้เศร้าหมอง
สุดท้ายต้องไม่ลืมถามตัวเองอยู่เสมอเป้าหมายของงานคืออะไร ตรงกับสิ่งที่เราต้องการมั้ย คนเราทำงานนานวันเข้าเผลอลืมไปว่าตัวเองต้องการอะไร ส่วนใหญ่นึกขึ้นมาได้ตอนที่สายแล้ว ฉะนั้นเมื่อเวลาผ่านไปถามตัวเองบ้างว่า เป้าหมายของเราคืออะไร
ขอให้ทุกคนสมหวัง โชคดีครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น