“ ครั้นปูนที่เคลือบองค์กระเทาะออก เผยให้เห็นว่าข้างใต้นั้นเป็นเนื้อทองคำล้วน พระพุทธรูปทองคำในช่วงพุทธศตวรรษที่ 18 ถึงต้นพุทธศตวรรษที่ 19 ศิลปะแบบสกุลช่างสุโขทัยอันงามวิจิตรได้ปรากฎแกสายตาชาวโลกนับแต่นั้น “
“ พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร “ หรือ “ หลวงพ่อทองคำ “ ซึ่งปัจจุบันประดิษฐานอยู่ ณ พระวิหารแห่ง “วัดไตรมิตรวิทยาราม” โดยหนังสือกินเนสบุ๊ค ค.ศ. 1991 ได้บันทึกไ้ว้ว่า “ เป็นพระพุทธรูปทองคำขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าสูงสุดในโลก “ เนื้อองค์พระเป็นทองคำบริสุทธิ์น้ำหนักกว่า 5,000 กิโลกรัม ที่มาของการพบพระพุทธรูปที่เรียกได้อีกชื่อว่า “ พระพุทธรูปทองคำสุโขทัยไตรมิตร “ มีปรากฎดังต่อไปนี้
ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก แห่งราชวงศ์จักรี ทรงอันเชิญพระพุทธรูปจากหัวเมืองต่าง ๆ มายังกรุงรัตนโกสินทร์มากกว่า 1,248 องค์ มีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าให้อันเชิญพระพุทธรูปปูนปั้นสุโขทัยไตรมิตรไว้ ณ “ วัดเชตุพนวิมลมังคาราม “ ในกาลต่อมาได้อัญเชิญมาประดิษฐานเป็นพระประธานที่อุโบสถ “ วัดโชตินารามหรือวัดพระยาไกร “ ในแผ่นดินสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 เมื่อวัดพระยาไกรตกอยู่ในสภาพรกร้าง พระพุทธรูปปูนปั้นองค์นี้จึงย้ายมาประดิษฐานที่ “ วัดสามจีน “ (งงมั้ยครับ ถ้างงอนุญาตให้กลับไปอ่านใหม่อีกครั้ง)
องค์พระพุทธรูปถูกหุ้มอยู่ในปูน เป็นระยะเวลายาวนาน เพื่อพิทักษ์ปกป้ององค์พระพุทธรูปทองคำจากภัยอันตรายต่าง ๆ ซึ่งเป็นลักษณะของคนไทยในสมัยก่อน จึงกล่าวได้ว่า ” สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ก่อน พ.ศ. 2498 ไม่มีใครรู้ว่าภายในพระพุทธรูปปูนขนาดใหญ่นี่มีพุทธปฎิมากรรมอันทรงค่าประทับอยู่ “
ในขณะนั้นที่อัญเชิญพระพุทธรูปมานั้น ทางวัดสามจีนกำลังทำการบูรณปฎิสังขรณ์วัดครั้งใหญ่ เวลาล่วงไป 20 ปี ในพุทธศักราช 2498 จึงแล้วเสร็จ วัดจึงเริ่มดำเนินการเคลื่อนย้ายพระพุทธรูปปูนปั้นองค์นี้ โดยมี ” พระวีรธรรมมุนี ” เป็นแม่กองทำการ การทำงานเป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากองค์พระมีน้ำหนักมาก ในขณะกำลังใช้ปั้นจั่นยกอยู่นั้น ลวดสลิงเกิดขาด องค์พระพุทธรูปจึงตกลงกระแทกพื้น ประกอบกับตอนนั้นเป็นเวลาค่ำและฝนตกหนัก การอัญเชิญจึงต้องหยุดชงักลง
วันรุ่งขึ้น ท่านเจ้าอาวาสไปพบรอยแตกที่พระอุระ เมื่อแกะรักที่ฉาบผิวองค์พระด้านในออก ก็ได้พบเนื้อทองคำเปล่งปลังงามจับตา จึงรีบให้ช่างมาช่วยกันกะเทาะปูนและลอกรักออกหมดทั้งองค์ พอเปลือกนอกที่หุ้มไม่มีแล้ว “ พระพุทธรูปปางมารวิชัยเนื้อทองคำบริสุทธิ์สกุลช่างสุโขทัยอันงดงาม หน้าตักกว้าง 6 ศอก 5 นิ้ว จากฐานถึงพระเกตุเมาฬีสูง 7 ศอก 1 คืบ 9 นิ้ว “ ได้ปรากฎให้เป็นที่จับตาจับใจผู้พบเห็นนัก จากนั้นยังพบกุญแจกลสำหรับถอดองค์พระออกเป็นส่วน ๆ จึงอันเชิญพระพุทธรูปมาประดิษฐานได้อย่างราบรื่น
“ วันสามจีน “ ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น” วัดไตรมิตรวิทยาราม “ เป็นอารามหลวงชั้นโท ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของสถานนีรถไฟหัวลำโพง ถนนเจริญกรุง เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร ใครจะแวะเวียนไปนมัสการพระพุทธรูปที่วัดเชิญได้ ผู้เขียนขออนุโมทนาบุญด้วยคน ถ้าบุญส่งอาจกะเทาะเจอทองก็ได้
ข้อมูล จาก http://www.wattraimitr-withayaram.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น